วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความเชื่อของคนโบราณ

โดย นายอุดม อนุพันธิกุล นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
ความเชื่อของคนโบราณที่มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดมักเป็นความเชื่อเกี่ยวกับผีสางเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รูปลักษณ์ ฤกษ์ยาม ลางบอกเหตุ รวมทั้งความเชื่อที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน นับตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรมในการทำศพอีกด้วย ซึ่งคนรุ่นใหม่ในสมัยนี้ ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ด้วยโลกที่เปลี่ยนไปจากยุคลัทธิ ภูตผีปีศาจเทวดาสู่ยุคสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวิทยาศาสตร์ หากสิ่งใดหาข้อพิสูจน์ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ คนรุ่นใหม่ก็มักจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเรื่องทางไสยศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องงมงาย ล้าหลัง จนกลายเป็น ข้อโต้แย้งกันอยู่เสมอ ว่าที่จริงแล้วความเชื่อของคนโบราณนั้นเป็นเพียงอุบายที่ผู้ใหญ่ใช้หลอกเด็ก หรือมาจากลางบอกเหตุของสิ่งเร้นลับจริง ๆ ดังจะยกตัวอย่างให้ท่านได้ลองพิจารณาดังต่อไปนี้ครับ ความเชื่อจากการดูลักษณะ โบราณว่าไว้ว่า คนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้คบยากเหลือเกินหากเป็นคนไทยก็ต้องไม่ตัวเล็กแคระแกรน เนื่องจากคนไทยในสมัยโบราณตัวใหญ่ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และถ้าเป็นคนจีนก็ต้องตัวไม่ดำเพราะโดยชาติพันธุ์แล้วชาวจีนต้องมีผิวขาวเหลือง ดังนั้น “ไทยเล็ก เจ๊กดำ” จึงเป็นสำนวนพูดกันมาจนทุกบัดนี้ แต่หากจะพิจารณากันให้ถ่องแท้ คงต้องดูที่นิสัยรวมไปด้วย นั่นเป็นเพียงแต่การสันนิษฐานเบื้องต้นเท่านั้น ลองใช้ดุลพินิจดูว่าจะเป็นจริงตามที่กล่าวมาหรือไม่ ทั้งนี้ คำกล่าวที่ว่า ไม่ได้รวมหมายถึง การงานของเขาเหล่านั้น ท่านหมายแต่เพียงว่า มักจะมีนิสัยออกไปทางคดโกงเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอาเปรียบเท่านั้น
ความเชื่อจากลางบอกเหตุ
มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน ในสมัยโบราณ การติดต่อสื่อสารไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนปัจจุบัน ดังนั้น หากจะนัดหมายกับใครก็เป็นไปโดยลำบาก จะต้องได้พบกันก่อนแล้วจึงนัดหมายในครั้งต่อไป แต่คนโบราณก็มีวิธีสังเกตตามความเชื่อ ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันนั้น หากมีใครคนใดคนหนึ่งในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกันกับอีกคน และชนกันที่กลางสำรับอาหาร ก็เชื่อว่าจะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็นพรุ่งนี้ ซึ่งในลักษณะมือชนกันนี้อาจจะเป็นเหมือนการประสานหรือพบกัน จึงเชื่อว่าจะมีแขกมาเยือนแน่นอน ก็ต้องมีการเตรียมข้าวปลาอาหารไว้คอยต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป เรื่องของความเชื่อเหล่านี้ ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ดังนั้น กรุณาใช้วิจารณญาณและหาเหตุผล ในการอ่าน ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แต่ถ้าเชื่อก็ควรเชื่ออย่างมีเหตุผลอย่างมงายนะครับ

ที่มา : ๑. Website : Thaifittips.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น