วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

มี บุคลิกภาพ อย่างไร จึงจะดึงดูดใจ...ใครสักคน

โดย......รัตนา เกิดเวียงใหม่
คน เราชอบดูกันเพียงภายนอก ผิวเผินแล้วชอบด่วนตัดสินใจว่าคนนี้ คนนั้นเป็นคนดี คนไม่ดีบุคลิกภายนอกเป็นเพียงภาพที่เห็นแต่ก็เป็นภาพที่สำคัญที่จะสร้างความประทับใจในครั้งแรกที่ได้พบ บุคลิกภาพที่ดีจะต้องสะท้อนออกมาจากจิตใจที่ดีงามเรียกว่าเป็นบุคลิกภายใน การมีจิตใจที่ดีงาม เรียกว่าเป็นบุคลิกภายในการมีจิตใจดี จึงเป็นสิ่งที่จะสะท้อนออกมาเป็นบุคลิกภาพภายนอกที่ดูแล้วน่าคบหาสมาคมน่าเป็นมิตรและจะเป็นบุคลิกภาพที่ดูงามสง่าและยั่งยืน
- บุคลิกภาพที่ดี เริ่มตั้งแต่การแต่งตัวดีเหมาะสมกับกาลเทศะ
- การวางตัวดี การวางตัวเป็นสิ่งสำคัญบางคนมีมนุษย์สัมพันธ์มากไปชอบพูดเจื้อยแจ้วไม่มีกาลเทศะถ้าทำตัวแบบนี้ก็จะไม่ค่อยมีคนเกรงใจบางครั้งก็จะดูน่ารำคาญเกินไปด้วยซ้ำ
- การพูด เวลาพูดจะต้องมีชีวิตชีวา พูดจาไพเราะ น้ำเสียงต้องมีน้ำหนัก มีเสียงต่ำเสียงสูงบ้างพอควร ใช้สายตากับคู่สนทนาและเอาใจใส่ในการพูดคุยแววตาจะต้องเป็นประกาย เมื่อพูดเรื่องน่ายินดีไม่ยักไหล่จะดูไม่สุภาพ
- การนั่ง จะต้องนั่งให้เต็มเก้าอี้ เพราะเวลานั่งหลังจะรับน้ำหนักเต็มที่ ดังนั้นเวลานั่งจะต้องนั่งตัวตรง และพิงพนักเก้าอี้ให้เต็มที่จึงจะผึ่งผายและไม่ปวดหลัง
- การเดิน จะต้องอกผายไหล่ผึ่งดูกระฉับกระเฉงว่องไว แสดงถึงความมั่นใจในตัวเอง แต่ละคนจะมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกันออกไปลอกเลียนกันไม่ได้แต่หัดกันได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะตั้งโรงเรียนสอนบุคลิกภาพกันทำไม การที่จะมีบุคลิกภาพอย่างไรนั้นอันที่จริงมันฝังตัว หยั่งรากลึกมาตั้งแต่วัยเด็กเช่นถ้าพ่อแม่ขี้โมโหเด็กจะมีนิสัยอารมณ์ร้อน หงุดหงิดตามพ่อแม่ไปด้วยถ้าเด็กอยู่ในครอบครัวที่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำมีการตบตี ทำร้ายกัน หรือพ่อแม่เลิกกัน เด็กบางคนจะกลายเป็นคนก้าวร้าว เด็กบางคนไม่สามารถปรับตัวได้จะรู้สึกตลอดเวลาว่าตัวเองไม่ได้รับความอบอุ่น และจะเรียกร้องความสนใจด้วย พฤติกรรม ต่าง ๆ บางคนหลงผิดก็หันไปหายาเสพติดทำให้เสียอนาคต
วิธีพัฒนาบุคลิกภาพตัวเอง
แม้ว่าบุคลิกภาพ จะถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงพัฒนาสามารถทำได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ประเมินข้อดีข้อเสียของตนเองยอมรับว่าเรามีข้อบกพร่องแม้จะยาก เพราะทุกคนย่อมคิดว่าตัวเองดีอยู่แล้ว แต่การยอมรับก็ไม่ต้องไปป่าวประกาศให้ใครทราบ เรายอมรับในใจของเราเอง แล้วค่อย ๆ ปรับปรุงตนเองไปทีละเล็กละน้อยโดยสำรวจตัวเองในด้านต่าง ๆ ดังนี้
บุคลิกภาพทางกาย เช่น รูปร่างหน้า ผิวพรรณซึ่งเป็นบุคลิกภาพภายนอก ถ้าผิวพรรณคล้ำอยากขาว ก็ใช้ครีมที่โฆษณาทำให้ผิวขาวมีมีหลากหลายยี่ห้อ ใช้บ่อย ๆ หน้าก็จะนวลเช้งผิวพรรณก็จะดีไปเองแต่ต้องเลือกดูให้เหมาะสมกับตัวเราเองด้วยไม่อย่างนั้นแทนที่จะสวยกลับยิ่งแย่ การแต่งกายต้องสะอาดเรียบร้อย แต่งให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น แต่งกายไปทำงานหรือแต่งกายไปงานกลางคืนก็จะแต่งไม่เหมือนกัน มีการเดินที่สง่างาม จังหวะการเดินสม่ำเสมอ
บุคลิกภาพทางอุปนิสัยหัดให้เป็นเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ อ่อนโยน สุภาพ มีเมตตา รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักให้อภัย ให้ทาน ประพฤติตนให้อยู่ในศีลธรรม มีความรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้ทำไปเรื่อย ๆ จะเคยชินติดเป็นนิสัยและจะมีบุคลิกภาพเป็นคนใจดีน่าคบหาสมาคมไปได้เอง
บุคลิกภาพทางอารมณ์จะต้องหัดเป็นคนที่มีอารมณ์เยือกเย็น ไม่ฉุนเฉียว สุขุมรอบคอบ ไม่อ่อนไหว กับเรื่องอะไรง่าย ๆ จิตใจมั่นคง ไม่หูเบาจะทำให้เป็นคนที่รักของคนรอบข้าง
บุคลิกภาพทางสังคม จะต้องรู้จักสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มีมนุษย์สัมพันธ์ดีไม่มองคนในแง่ร้าย รู้จักพุดคุยตามวาระและโอกาส รู้จักวางตัวจะทำให้เป็นคนบุคลิกดี เป็นที่น่านับถือ
บุคลิกภาพทางสติปัญญา ข้อนี้สำคัญมากการที่เราจะมีความสามารถได้ในหลาย ๆ ด้าน จะต้องรู้จักค้นคว้า หาความรู้ใส่ตนเอง ตามที่เราถนัดและสนใจเพื่อเป็นส่วนประกอบให้เราดูมีบุคลิกที่น่านิยมส่งเสริมให้เรามีคุณค่าในตัวเองมากขึ้น และเกิดความมั่นใจ ความรู้ความสามารถ จะสร้างเสริมความเชื่อมั่นให้กับตนเอง
พึงระลึกไว้เสมอว่าบุคลิกภาพ เป็นคุณสมบัติเฉพาะบุคคลและบุคลิกภาพที่ดีที่สุดก็ไม่มี มีแต่ว่าจะทำให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นได้อย่างไรต่างหาก
แต่อยากกระซิบว่าเราต้องมีความมั่นใจ ที่จะพัฒนาตัวเราเองให้มีบุคลิกภาพที่ดูดีผู้พบเห็น ไม่ใช่ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อตนเอง คิดแค่นี้สุขใจก็พอแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น