สวัสดีครับพบกันอีกแล้ว ครั้งนี้ขอแนะนำขนมทานเล่นที่หาทานกันยากอีกอย่างครับ ขนมนี้จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายขนมถ้วยทำมาจากแป้ง มีน้ำเชื่อมราดหน้าตามด้วยหัวไชโป๊เค็มสับและกระเทียมเจียวโรยไว้ คนทางลำปาง เข้าเรียกขนมนี้ว่า “ข้าวปั้น” ที่จังหวัดอื่นอาจะเรียกต่างออกไป เรียกว่า “ขนมมี้ปัน” ก็มี “ขนมถ้วยจีน” ก็เรียกกันครับ แต่จริงๆมันเป็นของกินเล่นของเด็กลูกจีนสมัยก่อน เรียกว่า ขนมจุ๋ยก้วย หรือชื่อเต็มๆว่า เกี่ยมจุ๋ยก้วย แต่ขนมจุ๋ยก้วยนี้มันจากจากขนมถ้วยอยู่ที่ของราดหน้านะครับ ขนมถ้วยจีนจะมีน้ำราดเป็นน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าวแต่ขนมจุ๋ยก้วยราดด้วยผัดกระเทียมและหอมซอยสับกับหัวไช้โป๊สับ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำและพริกไทย
ที่นี้มาดู“ข้าวปั้น”กัน ผมคิดว่าขนมข้าวปั้นที่ชาวลำปางรู้จักนั้นคงมาจากชุมชนชาวจีนสมัยก่อน ที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดลำปางนี้ละครับ “ข้าวปั้น” ของลำปางเป็นการผสมประสานของขนมจุ๋ยก้วยและขนมถ้วยจีน นั้นคือมีน้ำราดที่ทำมาจากน้ำตาลซึ้งเป็นของขนมถ้วยจีน และมีการใส่หัวไชโป๊เค็มสับและกระเทียมเจียวด้วยซึ้งเป็นของขนมจุ๋ยก้วย การจะหาทาน“ข้าวปั้น” ในลำปางนี้จะมีให้เป็นน้อยมากที่เห็นก็จะมีที่กาดหัวสะพานหรือตลาดสะพานรัชฎา และที่อีกหนึ่งคือกาดกองต้า วันธรรมดาจะมีแถวด้านหน้าวัดเกาะวารุการาม แต่ถ้าให้ดีช่วงเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์ ได้ทานแน่นอนและมีหลายสีให้เลือกโดยนั่งแคะทานหน้าร้านกันเลย แต่ถ้าใครต้องการทานขนมโบราณหายาก แต่มาลำปางไม่ได้ ก็ทำรับประทานกันเองในครอบครัวโดยมีสูตรการทำให้ทำกันครับ โดยไม่มีอะไรยุ่งยากมากมามาดูกันเลย
สูตร และวิธีทำ “ข้าวปั้น”๑.แป้งข้าวเจ้า (หนึ่งส่วน)
๒.แป้งมัน (3/4 ของแป้งข้าวเจ้า)
๓.เบกกิ้งโซดา
๔.น้ำปูนใส
นำผสมกันลงไป ใส่น้ำใบเตยที่คั่นลงไปแต่ถ้าต้องการสีอื่นก็สามารถใส่สีผสมอาหารสีอื่นได้ ตั้งลังถึงใส่น้ำ ใส่ถ้วยตะไล พอน้ำเดือดนึ่งถ้วยจนร้อนจัดตักแป้งหยอดลงไป นึ่งประมาณ 7-8 นาที เมื่อตัวแป้งขนมสุกแล้วนำมาพักให้ขนมถ้วยตัวแป้งเย็นแล้วใช้ไม้พายแคะออก
สูตร และวิธีทำน้ำราด
๑.น้ำตาลอ้อย๒.น้ำสะอาด๓.แบะแซ เคี่ยวกันให้เหนียว๔.งาขาวคั่ว (สำหรับโรยหน้าถ้าชอบ)
๕.กระเทียมเจียว (สำหรับโรยหน้า)
๖.หัวไช้โป๊สับ(สำหรับโรยหน้า)
นำน้ำตาลอ้อย น้ำสะอาและแบะแซ ลงหมัอที่เตรียมไว้ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อนเคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างเคี่ยวน้ำตาลใช้ไม้พายหมั่นคน เพื่อไม่ให้ติดก้นหม้อ เมื่อน้ำตาลเหนียวได้ที่และน้ำตาลมีสีสวย ยกขึ้นตั้งพักไว้ให้เย็น
แค่นี้ก็จะมีขนมไว้ทานเป็นอาหารว่างสบายๆ ก็ขอนนำเสนอ อร่อยๆกับขนมล้านนา ๓ แค่นี้นะครับขอให้ติดตาม ครั้งหน้าจะมีอะไรมาแนะนำกันอีก
วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553
อร่อยๆกับขนมล้านนา ๓
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น