วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ ๒ ในสตรีไทยรองลงมาจากมะเร็งเต้านม พบได้ตั้งแต่วัยสาวอายุก่อน ๓๐ ปี จนถึงวัยชราอายุ ๘๐ ปี พบมากในช่วง ๓๕-๕๐ ปี ในปีหนึ่งๆ พบว่ามีสตรีป่วยเป็นโรคนี้ทั่วโลก ทั้งๆ ที่เป็นมะเร็งที่ตรวจพบง่าย และสามารถป้องกันได้

.....คุณเสี่ยงกับมะเร็งปากมดลูกหรือไม่
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ต่ำกว่า ๑๘ ปี
  • เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • สามีหรือคู่นอนสำส่อนทางเพศ
  • สตรีที่เคยเป็นโรคติดเชื้อจากการร่วมเพศ เช่น กามโรค
  • สตรีที่เคยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่บริเวณอวัยวะเพศ เช่น เริม หงอนไก่
  • ผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือบกพร่อง เช่น ผู้ที่รับยาหลังการเปลี่ยนอวัยวะหรือผู้ติดเชื้อเอดส์
  • สตรีที่ติดบุหรี่ หรือผู้ใกล้ชิดเป็นผู้ติดบุหรี่

เมื่อพบภาวะผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์

มะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรก จะมีอาการ ดังนั้นการป้องกันจึงจำเป็นต้องรับการตรวจตั้งแต่ไม่มีอาการ

  • มีตกขาวออกมาผิดปกติ อาจมีเลือดปนและมักมีกลิ่นเหม็น
  • มีประจำเดือนไม่ปกติ กะปริบกะปรอย หรือบางครั้งออกมาก
  • มีเลือดออกขณะ หรือหลังร่วมเพศ
  • มีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
  • อ่อนเพลีย ซีด เบื่ออาการ น้ำหนักลด
  • มีการบวม ปัสสาวะไม่ออก หรือไหลไม่หยุด
  • ปวดท้องน้อย หรือมีอาการผิดปกติของอวัยวะอื่นเมื่อโรคลุกลามไปถึง
    ผลข้างเคียง
  • ทำการตรวจหามะเร็งปากมดลูกปีละครั้ง หรือเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาว หรือมีเลือดออกผิดปกติ
  • สตรีอายุ ๓๐ ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจภายใน เพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก
  • สตรีที่รับการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือสตรีที่อยู่ในภาวะเสี่ยงควรได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก ๖ เดือน
  • ไม่ควรสูบบุหรี่ หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่
  • ละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine) เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุด หากยังไม่เคยได้รับเชื้อนี้มาก่อน สามารถป้องกันได้ตั้งแต่อายุ ๙ ปีขึ้นไป

    ที่มา : http://www.phuketbulletin.co.th/health&beauty/view.php?id=๑๒๒

โดย เสาวภาคย์ คงแสง นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น