วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความเชื่อของคนโบราณ

.................ความเชื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของมนุษย์ มีผลต่อการประพฤติปฏิบัติของมนุษย์ ถือได้ว่าเป็นคำสอนที่คนโบราณได้ใช้เป็นเครื่องเตือนสติ เตือนใจให้คนรุ่นหลังได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ บางคนอาจคิดว่าปัจจุบันเป็นยุคที่พัฒนาแล้ว ความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปมาก ความเชื่อต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องไร้สาระไม่น่ายึดถือมาปฏิบัติ หากคิดในแง่กลับกันความเชื่อของคนโบราณนั้นแม้บางครั้งดูเหมือนงมงาย แต่ก็มักจะแฝงด้วยเหตุผลบางประการให้น่าขบคิดได้เหมือนกัน ซึ่งข้าพเจ้าขอเสนอความเชื่อของคนโบราณแต่คนในยุคปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อยึดถือความเชื่อนั้นอยู่ อาทิ เช่น

สีดำ เป็นสีที่คนโบราณถือนักถือหนาว่าเป็นสีแห่งความทุกข์โศก ใช้ใส่เฉพาะงานศพ
เท่านั้น ชุดสีดำจึงไม่นิยมใส่ไปในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานวันเกิด งานแต่งงาน หรือแม้กระทั่งการไปเยี่ยมคนป่วยก็เหมือนกัน เพราะถือว่าเป็นการแช่งหรือเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ผู้ป่วยนั้นตายเร็วขึ้น ทำให้ผู้ป่วยหดหู่และหมดกำลังใจ เกิดอาการทรุดลงได้ง่าย จึงไม่ให้ใส่สีดำ ควรเป็นสีที่สดใสและแสดงสีหน้าที่สดชื่ออีกด้วย

ตามปกติหญิงมีครรภ์มักถูกห้ามทำโน่นทำนี่อยู่เสมอ ด้วยกลัวว่าเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ คนโบราณห้ามหญิงมีครรภ์ไปงานศพ เพราะเกรงว่าวิญญาณจะสามารถเข้าไปรบกวนทารกในครรภ์ ทำให้เกิดอันตรายได้ แต่หากมองตามหลักความจริงก็คือ งานศพเป็นงานโศกเศร้า สร้างความสลดใจ ซึ่งมีผลต่อทารกในครรภ์อย่างแน่นอน แต่หากจำเป็นต้องไปจริง ๆ ก็ให้กลัดเข็มกลัดไว้ที่เสื้อผ้าบริเวณครรภ์ เป็นการป้องกันสิ่งไม่ดีต่าง ๆ เข้าไปรบกวนทารกได้

ความเชื่อเช่นนี้เช่นนี้มีมานานแสนนาน เพราะเชื่อว่าจะทำให้นอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น พบแต่ปัญหากลัดกลุ้มอยู่ไม่เป็นสุข บางคนก็คิดว่า ทิศตะวันตกนั้นนิยมให้คนตายหันศีรษะไปทางนั้น อีกทั้งพระอาทิตย์ก็ตกในทิศนั้นเช่นกัน แถมชื่อก็ยังไม่น่าฟังอีก จึงไม่ค่อยมีใครนิยมนอนหันศีรษะหรือทำการใดไปในทางทิศตะวันตกนี้



โดย พรทิวา ขันธมาลา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น