ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยครับ เดี๋ยวร้อนมาก เดี๋ยวฝนตก โดยเฉพาะเวลาก่อนฝนตกจะมีอากาศร้อนอบอ้าว เมื่อฝนตกลงมาก็เย็นฉับพลันเข้าไปอีก ฉะนั้นจึงควรหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเป็นการป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้กลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด
สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ควรต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง แล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอีกด้วย การออกกำลังกาย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
๑. การเต้นแอโรบิค
๒. การเดินเร็ว ๆ
๓. การวิ่งเหยาะ
๔. การขี่จักรยาน
๕. การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
การออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ การออกกำลังกาย สัปดาห์ละ ๕ วัน อย่างน้อยวันละ ๓๐ นาที แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะเกิดภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก การออกกำลังกายมากเกินไปโดยเฉพาะในอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า โรคลมแดด หรือช๊อคแดด (Heat Stroke) ได้ง่าย และเป็นโรคที่อันตรายมาก ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงมากเกิน ๑๐๖ องศาเซลเซียส เหงื่อไม่ออก หมดสติ ไต หัวใจ ตับวาย อาจมีเลือดออกทุกอวัยวะ ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ระหว่างออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำที่มีเกลือแร่ด้วย สิ่งสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงนอกจากการออกกำลังกาย คือ การรับประทานอาหาร ควรเน้นการรับประทานผัก ให้หลากหลายทั้งสดและลวก ต้ม ผัด และรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ องุ่น สัปปะรด มะละกอ เป็นต้น
หากเราดูแลสุขภาพตนเองได้ตามข้อปฏิบัติดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีสุขภาพดีในช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดีในระยะยาวอีกด้วยนะครับ........
สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ควรต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง แล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอีกด้วย การออกกำลังกาย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
๑. การเต้นแอโรบิค
๒. การเดินเร็ว ๆ
๓. การวิ่งเหยาะ
๔. การขี่จักรยาน
๕. การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
การออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ การออกกำลังกาย สัปดาห์ละ ๕ วัน อย่างน้อยวันละ ๓๐ นาที แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะเกิดภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก การออกกำลังกายมากเกินไปโดยเฉพาะในอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า โรคลมแดด หรือช๊อคแดด (Heat Stroke) ได้ง่าย และเป็นโรคที่อันตรายมาก ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงมากเกิน ๑๐๖ องศาเซลเซียส เหงื่อไม่ออก หมดสติ ไต หัวใจ ตับวาย อาจมีเลือดออกทุกอวัยวะ ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ระหว่างออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำที่มีเกลือแร่ด้วย สิ่งสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงนอกจากการออกกำลังกาย คือ การรับประทานอาหาร ควรเน้นการรับประทานผัก ให้หลากหลายทั้งสดและลวก ต้ม ผัด และรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ องุ่น สัปปะรด มะละกอ เป็นต้น
หากเราดูแลสุขภาพตนเองได้ตามข้อปฏิบัติดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีสุขภาพดีในช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดีในระยะยาวอีกด้วยนะครับ........
โดย ทินกร สุริกัน ผอ.กลุ่มส่งเสริมฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น