วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อร่อยๆกับขนมล้านนา ๔


สวัสดีครับพบกันอีกแล้ว เดือนนี้ผมจะขอเสนอขนมที่ธรรมดาที่ไม่ธรรมดาครับ เป็นความเหมือนที่แต่ต่างครับมีขนมชนิดหนึ่งทางภาคกลางเรียกว่า “ขนมเปียกปูน” แต่ทางเหนือก็มีขนมที่คล้ายกันที่เรียกว่า “ขนมศิลาอ่อน” ดูแล้ว ทั้งหน้าตาสีและรสชาติใกล้เคียงกันมาก แต่จะมีข้อแต่ตางก็ส่วนเลยน้อยที่เครื่องโรยหน้าขนมนี้ละครับ ที่“ขนมเปียกปูน”จะใช้มะพร้าวโรยหน้า ส่วน“ขนมศิลาอ่อน” จะใช้ถั่วโรย แต่ที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดคือส่วนผสมครับใน“ขนมศิลาอ่อน”จะมีส่วนผสมของน้ำกะทิอยู่ ส่วน“ขนมเปียกปูน”ไม่มีจึงต้องโรยด้วยมะพร้าวเพื่อเพิ่มความหอมมันครับ
“ขนมศิลาอ่อน” มีชื่อเรียกที่ออกเสียงทางเหนือ เรียกว่า“เข้าหนมศิลาอ่อน”บางที่เรียกว่า“เข้าหนมซะละอ่อน” หรือบ้างเรียก “เข้าหนมสาลาอ่อน” บางที่เรียกง่ายๆตามภาชนะที่ใส่ ว่า “ขนมถาด” ก็มี ส่วนผสมและการทำ“ขนมศิลาอ่อน”
ก็ทำไม่ยากครับสามารถทำทานเองเป็นของว่างหรือไว้รับแขกก็ได้

  • ส่วนผสม
    ๑. แป้งข้าวเจ้า ๑ กิโลกรัม
    ๒. แป้งมัน ๑๖๐ กรัม (ใส่เพื่อเพิ่มความเหนียว ไม่ใส่ก็ได้)
    ๓. น้ำตาลทราย ๘๐๐ กรัม
    ๔. กะทิ ๒ ถ้วย
    ๕. น้ำใบเตย ๑ ถ้วย
    ๖. เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา
  • วิธีทำ
    ๑. ผสมแป้งข้าวเจ้า กะทิ และ เกลือ นวดให้เข้ากัน
    ๒. ใส่น้ำใบเตย และน้ำเปล่า ประมาณ 2 ถ้วย นวดให้เข้ากัน
    ๓. ใส่น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลาย
    ๔. เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟอ่อนๆ
    ๕. กวนขนมตลอดเวลา จนกระทั่งแป้งสุก และข้นเหนียว ปิดไฟ
    ๖. เทขนมลงในถาด ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด โรยด้วยถั่วเขียวคั่ว

เคล็ดไม่ลับ
- การกวน ใช้ไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งสุก ถ้าใช้ไฟแรง จะทำให้แป้งเป็นก้อนและขนมติดก้นหม้อ
- ใบเตย เป็นยาบำรุงหัวใจ ลดการกระหายน้ำ รักษาโรคเบาหวาน และช่วยลดน้ำตาลในเลือด

เป็นอย่างไรบางครับการทำ“ขนมศิลาอ่อน”ไม่ยากเกินไปนะครับหวังก็จะนำกับไปทำขนมอร่อยๆแบบง่ายมาทานกันในครอบครัวหรือจะนำไปทำบุญก็ไม่เสียหายอะไรเป็นการประหยัดทางหนึ่งนะครับ ครั้งหน้าจะเป็นขนมอะไรอีกก็ติดตามกันต่อไปครั้งหน้า กับอร่อยๆกับขนมล้านนา
ข้อมูลจาก
“อาหารพื้นบ้านล้านนา” บนเว็บไซต์ของศูนย์สนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood

สวัสดีครับ
เขียนโดย นายชิตพร พูลประสิทธิ์ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น