วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

บทบาทของผู้ปกครองกับการเล่นเกมส์ของเด็ก

เรา ๆ ท่าน ๆ คงปฏิเสธกันไม่ได้ว่า ปัจจุบันเด็กไทยสนใจการเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากกว่าการละเล่นแบบไทย ๆ ซึ่งก็มีสาเหตุหลักจากความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกที่นำเทคโนโลยีการสื่อสารมาสู่ตัวเราถึงบ้าน และถ้าจะแก้ไขโดยการไม่ให้เด็กเล่นเกมจากคอมพิวเตอร์คงไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องนัก เพราะถ้าเราไม่ให้เขาเล่นที่บ้าน เขาก็จะไปเล่นนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านเกม หรือในโรงเรียน หรือ ทางมือถือ ซึ่งเราจะคุมเขาไม่ได้ แล้วเราจะแก้ไขได้อย่างไร
ท่านเคยไดยินเพลง Live And Learn ของคุณ กมลา ศุโกศล ไหมคะ เนื้อเพลงบอกว่า

เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน ............. จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ
ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่...จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน
* เพราะชีวิตคือชีวิต ...................................เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว .............เกิดขึ้นได้ทุกวัน
** อยู่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน .......................เติมความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน ..........................และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
สุขก็เตรียมไว้ ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล....จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว

นั่นคือความจริงของชีวิตค่ะ ดังนั้นถ้าเราจะเริ่มต้นที่จะแก้ปัญหานี้ ก็ควรที่จะแก้ที่ครอบครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งดิฉันของเสนอวิธีการแก้ไขง่าย ๆ ที่สามารถปฏิบัติได้นะคะ
ประการแรก จัดบ้านใหม่ เอาคอมพิวเตอร์มาอยู่ใกล้ท่านมากที่สุด อยู่ในที่ที่เราสามารถเห็นได้ อาจเป็นห้องรับแขก ห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อเขาจะไม่กล้าที่จะเล่นเกมหรือทำอะไรที่ลับตา
ประการที่สอง พ่อแม่ลูกมานั่งคุยกันว่าจะจัดเวลาในการเล่นเกมของลูก ลูกเห็นว่าอย่างไร ลูกจะเสนออะไร พ่อแม่ยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน จนได้ข้อยุติ (ถ้ามีการเสริมแรงโดยการให้รางวัลหรือการลงโทษในข้อตกลงนั้นได้ก็จะเป็นการดีนะคะ)
ประการที่สาม เมื่อเขาเล่นเกม พยายามเข้าไปอยู่ด้วย เขาไปคุย ถาม หรือศึกษาดูว่าเกมแต่ละเกมประเทืองปัญญาเขามากแค่ไหน มีวิธีเล่นอย่างไร เพื่อจะได้พูดคุยกับเขา ตามเขาทัน
ง่าย ๆ แค่นี้ คุณก็จะได้ลูกกลับมาเป็นของคุณ ไม่ให้เขาอยู่แต่ในโลกส่วนตัวของเขา ซึ่งจะเกิดผลร้ายตามมาหลายประการที่ไม่คาดหวัง ดิฉันเชื่อว่าทุกอย่างอยู่ที่ครอบครัวค่ะ เพราะถ้าครอบครัวเข้าใจเขา เป็นกำลังใจให้เขา เขาก็พร้อมที่จะเข้าใจและปฏิบัติตาม เพราะ “ อยู่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน เติมความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ”
โดย มันทนา กันสิทธ์ ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น